Botox&filler อย่าคิดว่าฉีดกับใครก็ได้นะ!

เดี๋ยวนี้สาวๆที่อยากจะอัพความสวยแบบรวดเร็วไม่ต้องเจ็บตัวก็คงหันไปพึ่ง Botox filler กันหมด
ก็แหม.. มันง่ายนี่นะ คลีนิกไหน หมอไหนก็ฉีดได้ เผลอๆ แค่ผู้ช่วยพยาบาลยังทำได้เลย โดยสาวๆอาจจะคิดว่า มันก็คงจะเหมือนๆกับการฉีดยาธรรมดาๆละมั้ง ไม่มันไม่ใช่นะคะเธอ!!! ขนาดช่างแต่งหน้าคนละคน ยังแต่งหน้า ผู้หญิงคนเดียวกันออกมาไม่เหมือนกันเลย ไม่เคยสงสัยหรอคะ? ว่าทำไมช่างคนนึงแต่งหน้าใครก็สวยไปหมด แต่อาจมีช่างแต่หน้าบางคนที่แต่งหน้าใครก็ออกมาดูแปลกๆ จะว่าสวยก็ไม่เท่าไหร่ จะว่าไม่สวยก็ไม่รู้ว่าไม่สวยรึเปล่า แต่ที่รู้ๆคือมันแปลกๆ…

ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะความชำนาญของช่างแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ ช่างแต่งหน้าที่แต่งใครก็สวยไปหมด เพราะเขาชำนาญในการแก้รูปหน้าของสาวๆให้แลดูสมดุลสวย และใช้ผลิตภัณฑ์จนชำนาญจนรู้ว่าใช้อะไรกับอะไร แล้วออกมาเป็นยังไง อันไหนเวิร์กกับใคร ไม่เวิร์กกับใคร ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และ ชั่วโมงบินจริงๆ เห็นไหมคะ? แค่เรื่องแต่งหน้าที่คิดว่าช่างคนไหนก็ได้ ยังไม่ได้เลยนะคะ แล้วBotox fillerที่ต้องอยู่บนหน้าเราไปอีกเป็นปีๆ จะให้ใครก็ได้มาฉีดได้ยังไงกันเน๊อะ

แพทย์หญิงทิฆัมพร,เอิงเอย Beauty Editor, มนต์นภา ฉายาวิจิตรศิลป์

เอิงได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมนาร่วมกับ BEAUTY BLOGGER อีกหลายท่าน เพิ่มความรู้เกี่ยวกับการปรับรูป หน้าด้วย Botox และ filler กับ MEKO CLINIC วิทยากรคือ “แพทย์หญิง ทิฆัมพร ใยบัวเทศ“ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญระดับอาจารย์ผู้สอนแพทย์กว่าครึ่งประเทศ แนวหน้าแห่งวงการโบท๊อกฟิลเลอร์ของเมืองไทย กับเทคนิคใหม่ของวงการ “Total Facial Approach สวยทุกมิติ…ดูดีทุกองศา” เป็นการปรับรูปหน้าด้วยโบท๊อกฟิลเลอร์แบบองค์รวม ไม่ใช่แค่ฉีดเฉพาะจุดเท่านั้นนะคะ

แต่เป็นการปรับรูปหน้าทั้งหมดให้ดูดีขึ้นแบบคนจับไม่ได้ว่าไปพึ่งเข็มมา จะบอกว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากจนปวดหัวเลยทีเดียว เพราะถ้าผิดไปแค่องศาเดียว รูปหน้าของสาวๆแทนที่จะสวย ก็พังได้ง่ายๆเลยเหมือนกัน อันนี้เป็นเรื่องของการคำนวนสัดส่วนของใบหน้าที่เรียกว่า “1.618 golden ratio face” หรือสัดส่วนทองคำของใบหน้า มีทฤษฎีรองรับเป็นหลักสูตรที่คุณหมอเฉพาะทาง Botox และ filler จะต้องเรียนเพื่อมาใช้วิเคราะห์รูปหน้าให้สาวๆที่อยากจะย้อนเวลาหลับไปสมัยหน้าเด้งอีกครั้ง คือมันเป็นหลักสูตรที่คุณหมอต้องเรียน บอกเลยว่ายากและละเอียดอ่อนเกินไปที่เอิงจะย่อมาให้สาวๆอ่านกันได้ กลัวว่าจะหลับกันก่อน เอาเป็นว่าไม่ใช่ว่าให้คุณหมอฉีดแล้ว จะสวยเหมือนกันทุกคนนะคะ

มนต์นภา ฉายาวิจิตรศิลป์,โอบอุ้ม-รัสรินทร์,แพทย์หญิงทิฆัมพร

การวางแผนและออกแบบรูปหน้านั้นถือได้ว่าเป็นงานศิลปะอย่างนึงเลยหละค่ะสาวๆ เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ต้องการการแก้ไขที่ต่างกัน ดังนั้นการวางแผนที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับบุคคุลนั้นๆ ก็ถือเป็นสำคัญสุดๆ สำหรับแพทย์เองนอกจากจะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการประเมินรักษาคนไข้แล้ว การพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับคนไข้ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน

เหล่า BEAUTY BLOGGER ที่มาร่วมงาน

filler สลายได้หมดจริงหรือไม่?
ฟิลเลอร์ชนิด pure hyaluronic acid ด้วยส่วนประกอบนั้นเป็นสารไฮยาลูโรนิค เอซิค เป็นสารที่มีในชั้นผิวหนังตามธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งสลายไปได้ด้วยตัวทำละลายคือเลือดของเรานั้นเอง หากไม่มีการบวกสารอื่นๆ เพิ่มเติม โดยปกติแล้วจะสลายไปตามธรรมชาติแน่นอนหากฉีดถูกตำแหน่ง และไม่มีการแอบใส่สารอะไรเพิ่มเติม สารที่ใส่เพิ่มนั้นแหละที่จะไม่สลายไป ดังนั้น ระวังกันด้วยเรื่องของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีคุณภาพมากจริงๆด้วยนะคะ (ของดีไม่มีถูก ของถูกไม่มีดีนะยูวว)

แต่เดียวก่อนนะคะ อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะเริ่มกลัวการพึ่งเข็มกันแล้วใช่มั้ยคะ? จริงๆแล้วมันไม่มีอะไร
น่ากลัวเลยค่ะ ถ้าเลือกทำกับผู้เชี่ยวชาญ และสถานพยาบาลเฉพาะทาง

แล้วควรจะฉีดปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอดี?
อย่างที่เล่าไปแล้วว่าใบหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ต้องการการแก้ไขที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นไม่มี
ปริมาณตายตัวสำหรับการเสริมสวยด้วยวิธีนี้ ควรให้แพทย์เฉพาะทางคำนวนให้ดีกว่านะคะ ถ้างบน้อยอย่างไรก็
ลองปรึกษาแพทย์ดูฉีดตรงไหนถึงจะออกมาดีที่สุด เพราะฉะนั้นเรื่องงบประมาณก็ยังเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน
ก็แหม… จะสวยทั้งทีก็คงต้องลงทุนกันหน่อยนะ

จะพึ่งเข็ม หรือมีดดีกว่า?
ทั้งนี้การศัลยกรรมกับการฉีด Botox และ filler ก็ยังไม่ข้อถกเถียงกันอยู่ว่าแบบไหนดีกว่ากันแน่?
แต่จริงๆแล้วมันก็คือศาสตร์และศิลป์ ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถนำมาจับคู่กันได้อย่างลงตัว เพื่อความสวยที่
เพอร์เฟ็คที่สุดแล้ว สาวๆควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดีที่สุดแล้ว