จะได้เป็นเจ้าสาวทั้งที ก่อนงานแต่งก็ต้องเตรียมตัวให้ปังๆ เตรียมหน้าให้แน่นเป๊ะไว้ก่อน จะได้แต่งหน้าออกมาสวยที่สุดในชีวิต เราก็เลยได้เห็นรีวิวแชร์ประสบการณ์จากเจ้าสาวคนสวย ซึ่งเป็นคุณหมอมาเองเลยค่ะ ว่าก่อนแต่งงานเธอเตรียมอัพหน้าจัดเต็มอะไรบ้าง พร้อมทั้งแนะนำวิธีเตรียมตัวทำสวยให้หน้าเป๊ะพร้อมดูดีมีออร่าที่สุดในวันแต่งงานเอาไว้ด้วย!
รีวิวครั้งนี้ถูกเล่าไว้ในเฟซบุ๊กของคุณ Woraporn Supphaprasitt ซึ่งเป็นคุณหมอเจ้าของคลินิก MD REVIVE มาแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวก่อนเป็นเจ้าสาว รวมถึงแชร์เคล็ดลับในการเตรียมตัวอัพหน้าให้สวยเป๊ะก่อนแต่งงาน โดยมีข้อความตามนี้เลยค่ะ
รีวิวการอัพหน้า ก่อนงานแต่ง
ก่อนจะได้เป็น มิวนิษฐา สาขาพระราม 5 ไม่ใช่แค่ความดีความชอบของช่างแต่งหน้าทำผมเท่านั้น ที่เห็นนี่ ฝีมือดิชั้นและฝาชี Hifu 2 รอบ ฟิลเลอร์ 7 หลอด โบไม่ได้นับค่ะ ขอเคลมผลงานหน่อย 555
ด้วยประสบการณ์อัพหน้าทั้งคนไข้เตรียมแต่งงานและตัวเองแล้ว เราแนะนำ ควรเตรียมการอัพหน้า ก่อนงาน 4-6 เดือน เพื่อให้เป๊ะ ดังนี้
เลเซอร์ยกกระชับ
ไม่ว่าจะเป็น Hifu Ulthera Thermage เลเซอร์ยกกระชับทั้งหมด จะเห็นผลทันทีประมาณ 20-30% และค่อยๆ ดีขึ้นจนเต็มที่ประมาณ 3 เดือน ดังนั้นควรเผื่อเวลาไว้ให้ออกฤทธิ์เต็มที่ด้วย
สำหรับคนที่มีปัญหาเยอะ แก้มเยอะ กรอบหน้าไม่ชัด ร่องแก้มลึก แนะนำทำ 2 ครั้ง การทำครั้งแรกเป็นการกระตุ้นคอลาเจนให้ผิวฟู เมื่อมาทำครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงพีค คอลาเจนใต้ผิวฟูเต็มที่ จะให้ผลที่เห็นชัดกว่าการทำครั้งแรกมากๆ
ควรเริ่มทำครั้งแรก ประมาณ 4-5 เดือน ก่อนงาน ถ้า 1 -2 เดือนก่อนวันงาน รู้สึกโอเคแล้วก็จบ แต่ถ้าไม่โอ ก็มีเวลามาซ้ำอีกรอบได้ทัน ถ้างบจำกัด หรือมีปัญหาไม่มาก แนะนำทำ 1 ครั้ง ก่อนงาน 2-3 เดือน ช่วงวันงานจะเป็นช่วงพีคของผลลัพธ์ (เอาจริงนะ ทำ Thermage / Ulthera 1 ครั้ง มาทำ Hifu กะเราได้ 2 ครั้งเลยอะ จ่ายเท่ากัน ผลลัพธ์ได้ 2 เท่า)
โบทอกซ์ ฟิลเลอร์
แนะนำทำที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ก่อนงาน จริงๆ ในคนที่ไม่เคยฉีด อยากให้มาลองฉีดครั้งแรกก่อนสัก 4-5 เดือนก่อนงาน
เพราะจะได้รู้สึกความตึง ไม่ชิน ได้ลองปรับโดส แล้วก่อนงานประมาณ 1 เดือนค่อยมาซ้ำ
แต่ถ้าไม่เคยฉีดเลย มีงบจำกัด อยากให้ฉีดที่ประมาณ 6 สัปดาห์ก่อนงาน เพราะทั้งโบทอกซ์และฟิลเลอร์จะเข้าที่หลังฉีดใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งถ้าริ้วรอยยังเหลืออยากเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยก็สามารถทำได้ แต่เอาจริงนะ ไม่ต้องตึงมากหรอก
เน้นเป็นธรรมชาติเถอะ แต่งหน้าหนาๆ ไม่ค่อยเห็นตีนกาเท่าไหร่
หลุมสิว รูขุมขน
อันนี้มีเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาดูแลกับทางเราเยอะมากๆ ควรรีบมาตั้งแต่ 6 เดือนก่อนงาน เพราะถ้าปัญหาเยอะ อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง ระยะห่าง คือ เดือนละครั้ง การทำเลเซอร์หลุมสิว รูขุมขน ทำให้ skin quality ดูดีขึ้น ผิวเนียน แต่งหน้าได้ติดทนขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ fineline จางลงด้วย
ฝ้า กระ
อันนี้บอกเลย ไม่ต้องซีนะ เพราะยังไงรองพื้นหนามาก กลบได้
สิว
ควรรีบหาสาเหตุและไม่ให้ขึ้นในช่วงนั้น เพราะแต่งกลบยากจริงๆ ใครเป็นสิวง่ายแนะนำรักษาให้หาย ก่อนงาน 1-2 สัปดาห์ ควรมาทำเลเซอร์ฆ่าเชื้อสิว เพื่อลดโอกาสการอักเสบในช่วงวันงาน
ทรีตเม้นต์คลินิก / มาสก์เองที่บ้าน
ทำก่อนงานสัปดาห์ละครั้ง เริ่มที่ประมาณ 1-2 เดือน ให้ผิวชุ่มชื้น ดูสดใส ให้ทำเนิ่นๆ อย่าค่อยไปทำก่อนงานแค่วีคเดียว เพราะมีความเสี่ยง ถ้าแพ้ สิวขึ้น ผิวเห่อ แล้วจะแก้ไม่ทันนะ
เสริมเรื่องสีผม
สีที่ทำแล้วสวย เหมาะกับเจ้าสาวส่วนใหญ่ คือ สีน้ำตาลอ่อน แต่จากการย้อมผมมานาน พบว่ามันมีความไม่สม่ำเสมอได้ ขึ้นกับฝีมือช่าง เพราะงั้นควรไปลองทำก่อนสักครั้งที่เดือนนึง ถ้าสีเพี้ยน ยังไงจะได้แก้ไขทัน และควรทำสีผมซ้ำอีกครั้ง 1 ก่อนงานประมาณ 1 วีค **ข้อควรรู้ หากใช้สีอมเขียวหรือเทา สีจะเริ่มหลุดที่ประมาณ 1-2 วีค**
ละก็ทรงผม ควรเอาภาพทรงที่จะทำไปให้ช่างตัดผมด้วย อย่างของเรา ตอนเช้า ด้านหน้าสไลด์ๆ ไล่ลงมา คือ ให้ช่างผมตัดมาก่อนวันงานเลยนะ เห็นบางคน ทำทรงนี้ ผมด้านหน้า มันจะยาวหรือสั้นเกินแปลกๆ ทรงผมแม่เจ้าสาวก็เช่นกัน เอาทรงที่จะทำไปให้ช่างตัดเตรียมไว้เลย วันงานช่างทำผมจะทำงานง่ายขึ้น และได้ทรงตามแบบที่ต้องการ
ใครสนใจทำสวยกับคุณหมอ สามารถติดต่อไปได้เลยค่ะ
เว็บไซต์ : mdreviveclinic.com
Facebook : MD REVIVE
LINE : @mdrevive
LADYISSUE คือ เว็บผู้หญิงอันดับ 1 อัพเดทกระแสฮิต ทาง LINE ฟรี !
Add friend ที่ ID : @ladyissue
258 Comments
I can’t help but be impressed by the way you break down complex concepts into easy-to-digest information. Your writing style is not only informative but also engaging, which makes the learning experience enjoyable and memorable. It’s evident that you have a passion for sharing your knowledge, and I’m grateful for that.
This site is mostly a walk-through for all of the data you wanted about this and didn?t know who to ask. Glimpse here, and you?ll positively discover it.
I’m genuinely impressed by how effortlessly you distill intricate concepts into easily digestible information. Your writing style not only imparts knowledge but also engages the reader, making the learning experience both enjoyable and memorable. Your passion for sharing your expertise is unmistakable, and for that, I am deeply appreciative.
Thanks for your post. I would like to say that the first thing you will need to conduct is determine whether you really need credit restoration. To do that you must get your hands on a duplicate of your credit file. That should really not be difficult, because the government mandates that you are allowed to obtain one free of charge copy of your own credit report on a yearly basis. You just have to inquire the right persons. You can either find out from the website for the Federal Trade Commission or contact one of the major credit agencies straight.
I wanted to take a moment to express my gratitude for the wealth of invaluable information you consistently provide in your articles. Your blog has become my go-to resource, and I consistently emerge with new knowledge and fresh perspectives. I’m eagerly looking forward to continuing my learning journey through your future posts.