เพราะสมัยนี้มันยุค 4G มีแค่มือถือและโปรแกรมแชท ก็ปิ๊งปั๊งกันได้ง่ายๆ แล้ว ดังนั้นปัญหาเรื่องมีกิ๊ก มีชู้ มีมือที่สาม ก็เลยขยันโผล่มาให้ปวดตับกันบ่อยๆ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังสงสัยหรือมีเซ้นส์ว่าคนใกล้ตัวกำลังจะมีกิ๊ก แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ วันนี้เรามีข้อสังเกตที่น่าสนใจมาฝากกัน ถ้าเช็คแล้วเข้าข่ายเกือบหมด คงต้องชั่งใจกันหน่อยแล้วล่ะมั้งเนี่ย!
1. สนใจเราน้อยลง
เป็นจุดสังเกตแรกที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่แฟนของคุณเริ่มสนใจน้อยลง พูดอะไรไปก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง บางทีก็ไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องของตัวเอง ทั้งที่เมื่อก่อนจะไปไหนทำอะไร เจออะไรสนุกๆ ก็จะมาเล่าให้เราฟังก่อนเสมอ หรือบางครั้งจากที่เคยแบ่งเวลาทำงานและส่วนตัว ก็ดูเหมือนว่าจะชอบอ้างงานเยอะ ติดงาน ติดเรียน ติดเพื่อน จนเรากลายเป็นคนหางแถวที่เค้าไม่ค่อยนึกถึง ชวนดูหนังก็ไม่ค่อยไป หรือบางทีก็บอกว่าดูกับเพื่อนมาแล้ว! บอกเลยว่างานนี้ทะแม่งๆ แล้วล่ะ
2. อยู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลา
ถ้าเมื่อไหร่ที่อยู่ด้วยกัน แล้วแฟนคุณยังควักโทรศัพท์ออกมาเล่นไม่ยอมหยุด จะเปิด Facebook เล่น Line หรือกดไลค์รูปใน Instagram ก็ยังดูแปลกๆ จริงมั้ย? ในเมื่อแฟนนั่งอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ยิ่งถ้านั่งแชทแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หรือพยายามปกปิดไม่ให้เราเห็นข้อความที่แชท อันนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปอีก ว่ามีเพื่อนคนไหนในโลกโซเชียลที่ทำให้เค้าอยากจะติดตามความเคลื่อนไหว หรือพูดคุยกันตลอดเวลาขนาดนั้น ห๊า!?
3. หวงของไม่ยอมให้แตะอะไรเลย
จากที่เมื่อก่อนยอมให้เช็คโทรศัพท์ พกกระเป๋าตังค์ หรือยืมคอมเล่นแบบชิลๆ แต่พักหลังถ้าอยู่ๆ เกิดหวงของมีข้ออ้างไม่ยอมให้เราได้เฉียดเข้าไปในรัศมี หรือจะลุกไปไหนทีก็ห่วงพะวง ต้องกลับมาเอาข้าวของส่วนตัวติดไปด้วยแม้กระทั่งในห้องน้ำ แบบนี้ก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าในสรรพสิ่งเหล่านั้นมีความลับอะไรที่ให้แฟนรู้ไม่ได้หรือเปล่า ยิ่งถ้าเปลี่ยนพาสเวิร์ดโซเชียลทุกชนิด ยิ่งต้องคิดหนัก!
4. เปลี่ยนชื่อหรือรูปในโซเชียล ให้ดูเหมือนเป็นคนโสด
บางครั้งพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในโซเชียลก็อาจส่อเค้าไปถึงเรื่องเซอร์ไพรส์ที่กำลังจะตามมาก็ได้ เช่น จากเมื่อก่อนเคยใช้รูปคู่กับแฟนหวานแหวว วันดีคืนดีก็เกิดอยากจะเปลี่ยนเป็นรูปอื่นขึ้นมา โดยอาจมีข้ออ้างว่าเบื่อรูปเดิม เป็นต้น นอกจากนี้อัลบั้มหวานๆ ของสองเรายังถูกล็อคเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น เห็นได้แค่เค้ากับคุณเท่านั้น (อาจจะต้องสืบด้วยการใช้ไอดีคนอื่นเข้าไปดู ถึงจะรู้ว่าสามารถเห็นอัลบั้มได้หรือเปล่า) นอกจากนี้อาจจะมีการโพสต์ข้อความทำนองว่าโสด หรือไปไหนมาไหนคนเดียว ทั้งๆ ที่เราก็ไปด้วยกัน หรือถ้าเค้าเริ่มตั้งค่าระบบแท็กและทุกอย่างใน FB ให้ผ่านการกดยอมรับก่อนจะมาโผล่ลงในหน้าเฟส ยิ่งมีพิรุธเข้าไปใหญ่
5. ดูแลตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากที่เคยปล่อยตัวตามสบาย ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าชิลๆ ก็กลายเป็นคนที่ดูแลตัวเองจนดูดีขึ้นผิดหูผิดตา บางทีแต่งตัวหล่อสวยจนเกินกว่าจะไปเรียน ไปทำงาน หรือไปเจอเพื่อนฝูง บางทีก็ประโคมน้ำหอม สำรวจตัวเองบ่อยครั้งก่อนออกจากบ้าน แถมยังห่วงภาพลักษณ์จนน่าสงสัย หรือถ่ายรูปอวดไลฟ์สไตล์ชิคๆ (แบบสร้างภาพ) ลงโซเชียลอย่างไม่มีเหตุผล เหล่านี้อาจคาดเดาได้ว่ากำลังจะเปลี่ยนตัวเองให้ดูดีเพื่อให้ประทับใจใครหรือเปล่า
6. นอนเร็วจนผิดนิสัย
กรณีนี้สังเกตได้ทั้งคนที่อยู่ด้วยกัน และคนที่อยู่กันคนละบ้าน เพราะถ้าจากเมื่อก่อนที่ต้องโทรหากันจนดึกดื่นยังไม่มีใครยอมวาง กลับกลายเป็นว่าอ้างง่วง อ้างเหนื่อยอยู่เป็นประจำ แถมยังเข้านอนซะเร็วตั้งแต่ละครยังไม่จบอีก ถ้าอยู่บ้านเดียวกันก็สงสัยได้เลยว่าเค้าจะรีบหลอกล่อให้คุณหลับ เพื่อแอบออกไปคุยโทรศัพท์กับใครอีกคนหรือเปล่า ส่วนถ้าอยู่คนละบ้านยิ่งมีความเป็นไปได้ว่า ที่ขอวางสายจากเราน่ะไม่ได้ไปนอนหรอก แต่เอาเวลาที่เหลือก่อนนอนไปออดอ้อนกับอีกคนนึงอยู่
7. ทำอะไรก็ขัดใจ ชวนทะเลาะเป็นประจำ
99% ของคนที่เลิกกัน ส่วนมากเกิดจากการทะเลาะจนเอือมระอา แต่สาเหตุของการทะเลาะเนี่ยสิ หลายคู่เลิกกันไปแล้วก็ยังหาคำตอบไม่ได้ด้วยซ้ำ ลองคิดทบทวนดีๆ ว่าอาจจะเป็นเพราะความเบื่อหน่ายและหมดใจหรือเปล่า ที่ทำให้เราทำอะไรก็ผิดไม่ถูกใจเค้าไปซะหมด จากที่เคยประนีประนอมยอมๆ กันไป อยู่ๆ แค่รถติดก็ยังหันมาเหวี่ยงใส่ หรือถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรก็พาลจะไม่กินซะอย่างนั้น กลายเป็นทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าไปแอบติดใจใครหรือเปล่า เราก็เลยกลายเป็นของเล่นชิ้นเก่าที่อยู่เฉยๆ ยังน่ารำคาญ
8. ไม่มีอารมณ์กุ๊กกิ๊กกับคุณ
ทั้งมุมหวานๆ และเรื่องความสัมพันธ์ใกล้ชิด ถ้าอยู่ๆ เค้าก็เกิดเบื่อหน่าย หมดอารมณ์ และทำท่าว่าจะเลี่ยงๆ การกระทำแบบนั้นท่าเดียว ทั้งที่เมื่อก่อนเจอกันทีไรก็มุ้งมิ้งกันตลอด อาจเป็นเพราะว่าเค้าเกิดไปติดใจใครขึ้นมา ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกอยากจะแสดงความรักกับคนเก่าอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเข็มทิศชี้ไปทางคนใหม่แทน พูดง่ายๆ ว่าเห็นเราก็หมดอารมณ์แต่เห็นคนใหม่แล้วอยากกระโดดเข้าใส่กันเลยทีเดียว
9. มีคอมเมนท์และไลค์แปลกๆ ในโซเชียล
กิ๊กบางคนก็อยากจะแสดงความเป็นเจ้าของ ดังนั้นหลายครั้งที่ในโซเชียลของแฟนคุณ อาจจะมีขาประจำที่คอยมากดไลค์และคอมเมนท์แทบทุกสเตตัส ลองสังเกตดีๆ ว่าคนเหล่านั้นคือใคร ถ้าแฟนบอกว่าเป็นเพื่อน จับพิรุธให้ได้ว่าเพื่อนคนไหนกันแน่ ถ้าบางครั้งสเตตัสของคนเหล่านั้นเกิดอยู่ในสถานที่หรือเหตุการณ์เดียวกันกับแฟนคุณด้วย นี่ยิ่งต้องคิดหนักเข้าไปใหญ่เลย
10. ทำตัวเหมือนเดิมแต่ลบแชทและลบเบอร์ทิ้ง
บางครั้งแฟนมืออาชีพอาจจะทำตัวเนียนๆ แล้วปล่อยให้คุณสำรวจมือถือ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือเข้า-ออกโซเชียลมีเดียของเค้าได้สบายๆ แต่ลองสังเกตให้ดีๆ ว่าทุกครั้งที่คุณเปิดเข้าไป สถานะมันเงียบเชียบผิดปกติหรือไม่ เช่น ลบประวัติการเข้าชมทุกอย่าง ลบแชทไม่มีเหลือ หรือพอถามอาจจะบอกว่าเครื่องแฮงค์ โปรแกรมรวน เป็นต้น ถ้าครั้งสองครั้งก็เข้าใจ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ทุกครั้งไป ก็ไม่น่าจะปล่อยผ่านง่ายๆ แล้วมั้ง
จริงๆ แล้วยังมีข้อสังเกตอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนใกล้ๆ ตัว แต่นี่เป็นเพียงข้อสังเกตคร่าวๆ ที่อาจจะช่วยสะกิดต่อมสงสัยให้คุณเตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะรู้ตัวอีกทีก็ถูกสวมเขาไปซะแล้ว ยังไงก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งให้ข้อสังเกตเหล่านี้เป็นปัญหากับคู่ของคุณตั้งแต่อ่านจบนะคะ ลองถามไถ่ฟังคำอธิบายจากปากอีกฝ่ายก่อน แล้วสังเกตอยู่ห่างๆ ถ้ายังมีพิรุธ ก็คงต้องพิจารณากันอีกที
ขอบคุณภาพจาก feelyourlove, survivingsports, sleep-centre, lifehack, confidentimagebc, hercampus, lifestyle