ใครกำลังเตรียมตัวรับปริญญา แล้วอยากให้รูปออกมาสวยทุกมุม โพสท่าอย่างมั่นใจไม่ต้องกังวล วันนี้เรามีทริคถ่ายรูปรับปริญญาที่มือใหม่ก็เอาไปใช้ได้มาแนะนำกันค่ะ!
1. แต่งหน้าให้ติดทน รองพื้นไม่หมองกว่าผิว
สำหรับบัณฑิตที่อยากให้หน้าเป๊ะสู้กล้อง บอกเลยว่าต้องเริ่มกันตั้งแต่งานผิว โดยเน้นการแต่งหน้าให้ติดทน ไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นหนา ๆ แต่ต้องเลือกสีรองพื้นให้พอดีหรือสว่างกว่าผิว 1 เฉด อย่าให้ขาวเกินไปจนหน้าลอย และอย่าให้สีเข้มกว่าผิวเด็ดขาด เพราะจะทำให้หน้าดูหมองได้ เน้นการใช้ฟองน้ำกดรองพื้นให้แนบเนียนไปกับผิว เพื่อให้งานผิวเนี้ยบที่สุดเวลาอยู่ในกล้อง ที่สำคัญอย่าลืมลงไฮไลท์ที่สันจมูกและหน้าแก้มเบาๆ เพื่อให้ถ่ายรูปรับปริญญาออกมาแล้วหน้าดูมีมิติ พุ่งสู้กล้องทุกมุมไปเลยค่ะ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะแต่งเองแล้วเป๊ะ แนะนำให้ลงทุนจ้างช่างแต่งหน้าเลยจะอุ่นใจกว่า
2. เน้นแสงตอนเช้าหรือตอนเย็น
การถ่ายรูปรับปริญญาให้ออกมาสวย แสงไม่แข็งเกินไป ต้องเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม โดยจะมีช่วงเวลาแสงสวย แบ่งออกได้เป็นช่วงๆ คือ
– ช่วงแสงละมุน 7.00-9.00 น. และ 16.00-18.00 น. (ถ้าอยากได้ภาพสวยละมุนๆ แสงสีนวลกระทบผิว ควรเลือกช่วงเวลานี้)
– ช่วงฟ้าเปิด 9.00-11.00 น. และ 14.00-15.30 น. (ถ้าอยากได้ภาพสีจริงที่สดใส ท้องฟ้าสีชัด ควรเลือกช่วงเวลานี้)
– ช่วงแสงแข็ง 12.00-13.30 น. (ไม่ควรเลือกช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้ผิวไม่สวย แสงไม่ละมุน)
– ช่วงแสงหมด หลัง 18.00 น. เป็นต้นไป (ไม่ควรเลือกช่วงเวลานี้ เพราะต้องใช้แฟลชช่วย ผิวจะไม่สวยเท่าตอนกลางวัน)
3. หาจุดที่อยากถ่ายไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วซ้อมโพสท่าไว้ก่อน
อีกสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามในการถ่ายรูปรับปริญญา นั่นคือการสำรวจพื้นที่และเลือกมุมที่ต้องการถ่ายรูปเอาไว้ก่อน การมองหามุมเอาไว้ก่อนจะทำให้พอถึงวันงานรับปริญญาจริง ไม่ต้องเดินวนไปวนมาเพื่อหามุมถ่ายรูป โดยเฉพาะหากถ่ายภาพในมหาวิทยาลัยบัณฑิตจะมีมุมที่คุ้นเคยและต้องการถ่ายไว้เป็นความทรงจำอยู่แล้ว แนะนำให้จดลิสต์เพื่อวางแผนการเดินไปถ่ายรูปในมุมต่างๆ เอาไว้ก่อน จะได้เดินไล่ไปตามจุดต่างๆ แบบไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา และควรซ้อมท่าเตรียมไว้บ้าง ถ้ามุมนั้นมีคนรอคิวถ่ายเยอะ จะได้ไม่ต้องกดดันจนภาพไม่สวย เพราะเราทำการซ้อมท่าหน้ากระจกหรือลองถ่ายเล่นๆ เพื่อหามุมไว้ก่อนแล้ว วันงานก็จะเหนื่อยน้อยลงด้วยค่ะ
4. ตั้งค่ากล้องให้รูรับแสงกว้าง หน้าชัดหลังเบลอ
สำหรับใครที่อยากตั้งค่ากล้องเอง ถ้าต้องการให้รูปมีมิติหน้าชัดหลังเบลอ แนะนำให้เลือกเลนส์ที่มีค่ารูรับแสงกว้างๆ โดยส่วนใหญ่เลนส์ Kit ที่ได้มากับกล้อง มักมีรูรับแสงอยู่ที่ f3.5-f5.6 แต่ถ้าอยากให้ภาพออกมาสวยมีระยะชัดลึก มีโบเก้ด้านหลัง แนะนำให้ใช้เลนส์ Fix ระยะ ที่มีรูรับแสงกว้างขึ้นแต่คงที่ เช่น f1.4-f1.8 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์ราคาสูง แต่แลกมากับภาพที่ได้ระยะหน้าชัดหลังเบลอแบบละลายสุดๆ เหมาะกับการถ่ายภาพพอตเทรตฉ่ำๆ เลยค่ะ ส่วนการถ่ายภาพกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ อาจจะใช้เลนส์ระยะกว้างเพื่อให้เก็บสมาชิกและฉากหลังได้ครบ โดยรูรับแสงก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
5. วัดแสงให้เหมาะสมกับภาพแต่ละแบบ
การวัดแสงก็สำคัญ เวลาถ่ายภาพหลายคนเลือกให้กล้องวัดแสงแบบออโต้ ซึ่งสะดวกและง่ายต่อการตั้งค่า แต่จริงๆ แล้วการวัดแสงแบบออโต้ มีข้อเสียคือแสงแต่ละภาพอาจจะออกมาไม่เท่ากัน ทำให้ต้องมาแก้รูปกันทีหลัง ถ้าอยากให้ภาพออกมาสวยจึงควรวัดแสงให้เหมาะสมกับภาพแต่ละแบบ เช่น วัดแสงที่ใบหน้า เมื่ออยากเน้นที่ตัวแบบ ซึ่งแลกกับฉากหลังที่อาจจะเสียรายละเอียดไปบ้าง หรือจะวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพ เมื่อต้องการถ่ายกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ เพื่อให้เแสงเฉลี่ยเท่ากันทั้งภาพ เป็นต้น
6. จ้างมืออาชีพเลยง่ายกว่า
และสำหรับใครที่รู้สึกว่ายุ่งยาก ทั้งเรื่องการแต่งหน้าและการตั้งค่ากล้องเพื่อถ่ายรูป อยากเอาเวลาไปเตรียมตัวกับการรับปริญญามากกว่า ก็แนะนำว่าให้มองหามืออาชีพมาช่วยไปเลยค่ะง่ายสุด ซึ่งเดี๋ยวนี้เค้ามีแหล่งให้บริการแบบหาง่ายมาก ๆ แยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน ซึ่งแหล่งหาช่างภาพรับปริญญาและช่างแต่งหน้ายอดฮิตก็คือ fastwork เว็บที่เหล่าฟรีแลนซ์ต้องรู้จัก เพราะนอกจากจะเข้าไปหาช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ได้แล้ว ยังสามารถสมัครเป็นฟรีแลนซ์รับงานเองที่เว็บที่ได้ด้วย
วิธีค้นหาช่างภาพรับปริญญาและช่างแต่งหน้าใน fastwork.co ก็ง่ายมากๆ แค่เข้าเว็บหรือโหลดแอพ IOS apps.apple.com Andriod play.google.com แล้วพิมพ์ในช่องค้นหาได้เลย ลองเช็กราคา ดูผลงานของช่างภาพ ช่างแต่งหน้า เพื่อหาที่ถูกใจ และตกลงจ้างผ่าน fastwork ได้เลยค่ะ ทั้งสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวโดนโกง ง่ายจริงไม่โม้เลยค่าซิส!
ช่องทางติดต่อ
Facebook: fastwork
Instagram: fastworkco
TikTok: fastworkco
Twitter: fastworkco
Website: fastwork.co
ขอบคุณภาพจาก VenastoStudio
LADYISSUE คือ เว็บผู้หญิงอันดับ 1 อัพเดทกระแสฮิต ทาง LINE ฟรี !
Add friend ที่ ID : @ladyissue